one.ilmsg.in.th

Your Money or Your Life

"Your Money or Your Life" (ชื่อภาษาไทย: เงินหรือชีวิต) เป็นหนังสือเกี่ยวกับการเงินส่วนบุคคลที่เขียนโดย Vicki Robin และ Joe Dominguez ซึ่งถือเป็นหนังสือคลาสสิกและมีอิทธิพลอย่างสูงในแวดวงการเงินส่วนบุคคลและขบวนการ FIRE (Financial Independence, Retire Early) หนังสือเล่มนี้นำเสนอแนวคิดที่ท้าทายให้ผู้อ่านปรับเปลี่ยนมุมมองและความสัมพันธ์ที่มีต่อเงินใหม่ โดยมีเป้าหมายเพื่อนำไปสู่อิสรภาพทางการเงินและการใช้ชีวิตอย่างมีความหมายมากขึ้น

แนวคิดหลักของหนังสือ:

  • เงินคือพลังชีวิต (Money is Life Energy): แนวคิดสำคัญที่สุดของหนังสือคือ เงินไม่ใช่แค่ตัวเลขหรือวัตถุ แต่เป็นสิ่งที่เราใช้ "พลังชีวิต" (เวลาและพลังงาน) แลกมา การตระหนักถึงสิ่งนี้จะช่วยให้เราตัดสินใจใช้จ่ายเงินอย่างมีสติมากขึ้น โดยพิจารณาว่าสิ่งที่เราซื้อนั้นคุ้มค่ากับพลังชีวิตที่เสียไปหรือไม่
  • การเปลี่ยนความสัมพันธ์กับเงิน: หนังสือไม่ได้มุ่งเน้นแค่การจัดการเงิน แต่ต้องการเปลี่ยนทัศนคติและความสัมพันธ์ทั้งหมดที่เรามีต่อเงิน ชี้ให้เห็นว่าความสัมพันธ์ของเรากับเงินสะท้อนถึงความพึงพอใจและความสัมพันธ์ที่เรามีต่อครอบครัว ชุมชน และโลก
  • การหาจุด "พอเพียง" (Enough): หนังสือกระตุ้นให้ค้นหาจุดที่เรียกว่า "พอเพียง" สำหรับตัวเอง คือจุดสมดุลที่ไม่น้อยเกินไปจนกังวล และไม่มากเกินไปจนเป็นภาระ การรู้ว่าแค่ไหนคือพอ จะช่วยให้หลุดพ้นจากการใช้ชีวิตเดือนชนเดือน และความต้องการยกระดับชีวิตตลอดเวลา
  • อิสรภาพทางการเงิน (Financial Independence - FI): เป้าหมายสูงสุดคือการมีอิสรภาพทางการเงิน ซึ่งหมายถึงการมีรายได้จากทรัพย์สิน (เช่น เงินปันผล ดอกเบี้ย) เพียงพอที่จะครอบคลุมค่าใช้จ่าย โดยไม่ต้องพึ่งพารายได้จากการทำงานประจำ

9 ขั้นตอนสู่อิสรภาพทางการเงิน:

หนังสือเสนอโปรแกรม 9 ขั้นตอนที่เป็นรูปธรรมเพื่อช่วยให้ผู้อ่านบรรลุเป้าหมาย ขั้นตอนเหล่านี้ออกแบบมาเพื่อสร้างความตระหนักรู้ทางการเงิน เปลี่ยนแปลงพฤติกรรม และสร้างความมั่งคั่งอย่างยั่งยืน:

  1. ยอมรับอดีตทางการเงิน (Making Peace with the Past): คำนวณรายได้รวมที่เคยหามาได้ทั้งชีวิต และคำนวณหามูลค่าสินทรัพย์สุทธิ (ทรัพย์สินหักหนี้สิน) เพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับสถานะการเงินในอดีต
  2. อยู่กับปัจจุบัน - ติดตามพลังชีวิต (Being in the Present—Tracking Your Life Energy): คำนวณหา "ค่าจ้างรายชั่วโมงที่แท้จริง" โดยนำค่าใช้จ่ายและเวลาที่เกี่ยวข้องกับการทำงาน (เช่น ค่าเดินทาง ค่าเสื้อผ้า เวลาเดินทาง) มาคำนวณรวมด้วย และติดตามรายรับรายจ่ายทุกบาททุกสตางค์อย่างละเอียด
  3. ทำตารางสรุปรายเดือน (Monthly Tabulation): จัดหมวดหมู่รายจ่ายในแต่ละเดือนให้สอดคล้องกับรูปแบบการใช้ชีวิตของตนเอง เพื่อให้เห็นภาพรวมว่าเงินถูกใช้ไปกับอะไรบ้าง
  4. ถามคำถามเปลี่ยนชีวิต 3 ข้อ (Three Questions That Will Transform Your Life): ประเมินการใช้จ่ายในแต่ละหมวดหมู่ด้วยคำถามสำคัญ 3 ข้อ:
    • "ฉันได้รับความอิ่มเอม ความพึงพอใจ และคุณค่า คุ้มค่ากับพลังชีวิตที่ใช้ไปหรือไม่"
    • "การใช้จ่ายพลังชีวิตนี้สอดคล้องกับคุณค่าและเป้าหมายในชีวิตของฉันหรือไม่"
    • "การใช้จ่ายนี้จะเปลี่ยนไปอย่างไร หากฉันไม่ต้องทำงานหาเลี้ยงชีพแล้ว"
  5. ทำให้พลังชีวิตมองเห็นได้ (Making Life Energy Visible): สร้างกราฟติดผนังเพื่อติดตามข้อมูลรายรับ รายจ่ายรวม และรายได้จากการลงทุนในระยะยาว เพื่อให้เห็นความก้าวหน้าและเป็นแรงจูงใจ
  6. ให้คุณค่ากับพลังชีวิต - ลดรายจ่าย (Valuing Your Life Energy—Minimizing Spending): เรียนรู้วิธีใช้จ่ายอย่างมีสติและประหยัด ลดการใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นหรือไม่สอดคล้องกับคุณค่าของตนเอง เน้นการใช้สิ่งของให้คุ้มค่าและมีความสุขกับสิ่งที่มี
  7. ให้คุณค่ากับพลังชีวิต - เพิ่มรายได้ (Valuing Your Life Energy—Maximizing Income): พิจารณาเรื่องงานและรายได้ในมุมมองของพลังชีวิต แสวงหางานที่สอดคล้องกับคุณค่าและให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่ากับพลังชีวิตที่ลงไป
  8. เงินทุนและจุดตัดไขว้ (Capital and the Crossover Point): นำเงินส่วนต่างระหว่างรายรับและรายจ่ายไปลงทุนอย่างสม่ำเสมอ ติดตามรายได้จากการลงทุนจนกระทั่งรายได้ส่วนนี้สูงกว่าค่าใช้จ่ายรายเดือน ซึ่งเรียกว่า "จุดตัดไขว้" (Crossover Point) อันเป็นจุดเริ่มต้นของอิสรภาพทางการเงิน
  9. ลงทุนเพื่ออิสรภาพทางการเงิน (Investing for FI): เรียนรู้และวางแผนการลงทุนระยะยาวที่เหมาะสมกับตนเอง เพื่อให้เงินออมเติบโตและสร้างรายได้แบบพาสซีฟ (Passive Income) ที่ยั่งยืน หนังสือฉบับปรับปรุงใหม่ยังครอบคลุมถึงการลงทุนในกองทุนดัชนี (Index Funds) ด้วย

ประเด็นอื่นๆ ที่น่าสนใจ:

  • การบริโภคนิยม: หนังสือวิจารณ์วัฒนธรรมการบริโภคนิยมที่กระตุ้นให้คนซื้อสิ่งของที่ไม่จำเป็น และส่งผลเสียต่อทั้งการเงินส่วนบุคคลและสิ่งแวดล้อม
  • การพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน (Financial Interdependence): ฉบับปรับปรุงใหม่ได้เพิ่มแนวคิดเรื่อง FI ตัวที่สี่ คือ Financial Interdependence ซึ่งเน้นความสำคัญของการพึ่งพาอาศัยกันในชุมชนและสังคมเพื่อสร้างชีวิตที่ร่ำรวยอย่างแท้จริง
  • ความสุขที่ไม่เกี่ยวกับเงิน: ส่งเสริมให้หาความสุขจากสิ่งที่ไม่ใช่การบริโภค เช่น ความสัมพันธ์ ประสบการณ์ การช่วยเหลือผู้อื่น
  • การลงมือทำ: เน้นย้ำว่าความรู้ทางการเงินจะไม่มีประโยชน์หากไม่ลงมือปฏิบัติจริงตามขั้นตอนต่างๆ

โดยสรุป "Your Money or Your Life" ไม่ใช่แค่หนังสือสอนรวยหรือจัดการเงิน แต่เป็นปรัชญานำทางให้ผู้อ่านเข้าใจความสัมพันธ์ที่แท้จริงระหว่างเงินกับชีวิต กระตุ้นให้ใช้จ่ายอย่างมีสติ สอดคล้องกับคุณค่าของตนเอง และมุ่งหน้าสู่อิสรภาพทางการเงินเพื่อที่จะได้ "ใช้ชีวิต" อย่างแท้จริง ไม่ใช่แค่ "หาเลี้ยงชีพ" ไปวันๆ